นักศึกษาพยาบาลจากโรงพยาบาลรามาธิบดีได้เข้ามาตรวจสุขภาพนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4, 5, 6 และระดับมัธยมศึกษาที่โรงเรียนปัญจทรัพย์ การตรวจสุขภาพนี้ครอบคลุมการตรวจวัดความดันโลหิต ตรวจสายตา และวัดส่วนสูงน้ำหนัก รวมถึงให้คำแนะนำในการดูแลสุขภาพ นอกจากการดูแลสุขภาพร่างกายแล้ว นักศึกษาพยาบาลยังเสริมสร้างความรู้และความตระหนักเรื่องสุขภาพให้นักเรียนด้วย กิจกรรมนี้ไม่เพียงเป็นการดูแลนักเรียน แต่ยังเป็นโอกาสให้นักศึกษาพยาบาลได้ฝึกฝนทักษะทางวิชาชีพอีกด้วย ลิงค์ดาวน์โหลดรูปกิจกรรม

แหล่งเรียนรู้ในจังหวัดนครปฐม ได้แก่ ดูบัวคาเฟ่ ตำบลบางแก้วฟ้า อำเภอนครชัยศรี
จังหวัดนครปฐม   ดาวน์โหลดภาพกิจกรรมทัศศึกษา

ฝ่ายอภิบาลและแพร่ธรรมโรงเรียนปัญจทรัพย์ กำหนดจัดกิจกรรมเทิดเกียรติพระแม่มารีย์ ปี ศึกษา 2567 ในวันศุกร์ที่ 6 กันยายน 2567 เวลา 08.00 - 10.00 น. ณ อาคารเซนต์ลอเรนซ์ 3 ผู้เรี ร่วมกิจกรรมตั้งแต่ระดับชั้นปฐมวัยปีที่ 1 - มัธยมศึกษาปีที่ 3 และบุคลากรครูทุกคน โดยมีมีพีธีบูชาขอบพระคุณ กิจกรรมฉลองศาสนนามครูและนักเรียนคาทอลิก กิจกรรมถวายความดีแต่พระแม่มารีย์ จัดป้ายนิเทศประวัติพระแม่ มารีอา และฉลองวันเกิดแม่พระด้วยการรับประทานโอศกรีมหลังเสร็จสิ้นกิจกรรม โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อส่งเสริมให้ และผู้เรียนเข้าร่วมพิธีทางศาสนา ร่วมโมทนาคุณพระเป็นเจ้าโดยผ่านทางพระแม่มารีย์  

1. พัฒนาทักษะการเรียนรู้ผ่านประสบการณ์ตรง: เด็กปฐมวัยจะได้สัมผัสกับสิ่งแวดล้อมจริงๆ ที่ต่างจากห้องเรียน ช่วยเสริมสร้างความเข้าใจและการเรียนรู้ในรูปแบบที่มีชีวิตชีวาและหลากหลาย

2. ส่งเสริมการพัฒนาสังคมและอารมณ์: การออกไปทัศนศึกษาช่วยให้เด็กได้เรียนรู้ที่จะมีปฏิสัมพันธ์กับผู้อื่น รู้จักการทำงานร่วมกันเป็นกลุ่ม และพัฒนาทักษะการปรับตัวในสังคม

3. ส่งเสริมการพัฒนาทักษะการคิดและการสังเกต: การเรียนรู้จากสถานที่จริงช่วยกระตุ้นความสนใจและการสังเกตของเด็ก พัฒนาแนวคิดและความเข้าใจในเรื่องราวต่างๆ ที่ได้พบเจอ

4. พัฒนาความอยากรู้อยากเห็นและความคิดสร้างสรรค์: การได้สำรวจสถานที่ใหม่ๆ และเจอสิ่งแปลกใหม่ช่วยกระตุ้นความอยากรู้และความคิดสร้างสรรค์ของเด็ก

5. สร้างความสุขและประสบการณ์ที่ดี: กิจกรรมทัศนศึกษามักสร้างความสนุกสนานและความทรงจำที่ดีให้กับเด็ก ซึ่งช่วยส่งเสริมความสุขและความมั่นใจในตัวเอง

ดาวน์โหลดรูปภาพทัศนศึกษาระดับปฐมวัย

โครงการค่ายรวมพลคนแสวงหา ครั้งที่ 9

"ความรักของพระเจ้าไร้พรมแดน"

วันศุกร์ที่ 16 - วันอาทิตย์ที่ 18 สิงหาคม ค.ศ. 2024

ณ อาคารสุวรรณศรี สังฆมณฑลจันทบุรี      ค่ายแสวงหา (หรือที่บางครั้งเรียกว่า ค่ายค้นหาตนเอง) เป็นกิจกรรมที่จัดขึ้นเพื่อช่วยให้ผู้เข้าร่วมมีโอกาสค้นพบและเข้าใจตนเองมากขึ้น รวมถึงการพัฒนาตนเองและการเตรียมพร้อมสำหรับอนาคต หลักการและจุดประสงค์ของค่ายมักจะรวมถึง:

1. หลักการและเหตุผล
นโยบายปฏิบัติด้านธรรมทูต ข้อที่ 3 ของแผนงานอภิบาลสังฆมณฑลจันทบุรี ค.ศ. 2011 - 2015 ระบุว่าให้มีการเสวนากับพี่น้องต่างความเชื่อ ที่อยู่บนท่าที และความรู้ความเข้าใจที่ถูกต้องในการเป็นมิตร การเคารพ ให้เกียรติและมีความสัมพันธ์ที่ดีต่อกัน อาศัยพิธีกรรม กิจกรรมต่างๆ ทั้งบริบทกับครอบครัว ชุมชนวัด และโรงเรียน

ดังที่ข้อ 2 ระบุไว้ว่า ให้มีการส่งเสริม ประสานความร่วมมือให้โรงเรียนคาทอลิกในสังฆมณฑลฯ มียุทธศาสตร์ในการใช้โรงเรียนเป็นสนามประกาศข่าวดี แผนกงานธรรมทูตเล็งเห็นความสำคัญของแผนงานเหล่านี้ และได้จัดโครงการค่ายแสวงหามาแล้วทั้งสิ้น 25 ครั้ง เพื่อให้นักเรียนต่างความเชื่อที่อยู่ในโรงเรียนคาทอลิกในสังฆมณฑลฯ ได้มีโอกาสเข้ามาเรียนรู้ สัมผัสพระวาจา โดยผ่านทางกิจกรรมต่างๆ ที่เกิดขึ้นในค่ายฯ

ในโครงการครั้งนี้ จึงต้องการรวมพลนักเรียนที่เคยเข้าร่วมค่ายแสวงหาแล้ว เพื่อเป็นการกลับมาเรียนรู้เพิ่มเติมในแบบที่เข้มข้นกว่าเดิม โดยอาศัยงานเมตตาจิตของศาสนาเป็นตัวเชื่อมโยง เพื่อให้เห็นถึงความรักของพระเจ้าที่ไร้พรมแดน

2. วัตถุประสงค์
2.1 เพื่อให้นักเรียนที่เคยเข้าร่วมค่ายแสวงหาได้กลับมาเรียนรู้เพิ่มเติมในแบบที่เข้มข้น โดยอาศัยงานเมตตาจิตเป็นตัวเชื่อมโยง เพื่อให้เห็นถึงความรักของพระเจ้าที่มีต่อมวลมนุษยชาติ ที่ไม่ได้จำกัดไว้สำหรับผู้ที่เป็นคริสตชนเท่านั้นแต่สำหรับทุกคน
2.2 เพื่อให้เด็กนักเรียนที่เคยเข้าร่วมค่ายแสวงหาแล้ว ได้มีโอกาสกลับมาทบทวนประสบการณ์หลังจากที่ได้รับการอบรมไปแล้ว
2.3 เพื่อส่งเสริมงานธรรมทูตให้เกิดขึ้นในขอบข่ายงานด้านการศึกษาของโรงเรียนคาทอลิกของสังฆมณฑลจันทบุรี

ดาวน์โหลดรูปภาพค่ายรวมพลคนแสวงหา ครั้งที่ 9

วันที่ 18 สิงหาคมเป็นวันที่สำคัญในประเทศไทยเพราะเป็น **"วันวิทยาศาสตร์แห่งชาติ"** ซึ่งถูกกำหนดขึ้นเพื่อรำลึกถึงพระปรีชาสามารถของพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 4 ที่ได้คำนวณพยากรณ์การเกิดสุริยุปราคาเต็มดวงที่บ้านหว้ากอ จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ได้อย่างแม่นยำในปี พ.ศ. 2411 

ความสำคัญของการจัดงานวันวิทยาศาสตร์ในวันที่ 18 สิงหาคม สามารถอธิบายได้ดังนี้:

1. **รำลึกถึงพระมหากษัตริย์ผู้เป็น "พระบิดาแห่งวิทยาศาสตร์ไทย"**: การจัดงานในวันนี้เป็นการยกย่องพระปรีชาสามารถของรัชกาลที่ 4 ที่ทรงมีบทบาทสำคัญในการวางรากฐานการศึกษาด้านวิทยาศาสตร์ในประเทศไทย ทำให้เป็นแรงบันดาลใจให้กับคนรุ่นหลังในการเรียนรู้และพัฒนาวิทยาศาสตร์

2. **ส่งเสริมการเรียนรู้และความตระหนักรู้ด้านวิทยาศาสตร์ในสังคม**: งานวันวิทยาศาสตร์แห่งชาติจะมีการจัดกิจกรรมต่าง ๆ เช่น นิทรรศการ การแข่งขัน การสาธิต และการบรรยาย เพื่อเผยแพร่ความรู้และสร้างความตระหนักรู้ในด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี

3. **กระตุ้นความสนใจในวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี**: การจัดงานนี้มีบทบาทสำคัญในการจุดประกายความสนใจในวิทยาศาสตร์ให้กับเยาวชนและประชาชนทั่วไป ซึ่งอาจนำไปสู่การเลือกเรียนต่อในสาขาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี รวมถึงการสร้างบุคลากรที่มีคุณภาพในอนาคต

4. **ส่งเสริมการพัฒนาและนวัตกรรม**: การเผยแพร่ผลงานวิจัยและนวัตกรรมใหม่ๆ ในงานวันนี้ช่วยกระตุ้นให้เกิดการพัฒนาและการนำนวัตกรรมไปใช้ประโยชน์ในภาคส่วนต่าง ๆ ของสังคม

5. **สร้างความร่วมมือระหว่างภาคส่วนต่างๆ**: วันวิทยาศาสตร์แห่งชาติเป็นโอกาสที่ภาคการศึกษา ภาครัฐ และภาคเอกชนจะได้ร่วมมือกันในการส่งเสริมและพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีในประเทศไทย

การจัดงานวันวิทยาศาสตร์ในวันที่ 18 สิงหาคมจึงมีความสำคัญทั้งในด้านประวัติศาสตร์ การศึกษา และการพัฒนาในระดับชาติ ทำให้เป็นวันที่มีคุณค่าในการส่งเสริมวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีในประเทศ

👧 นวัตกรรมระดับปฐมวัย “การพัฒนาสมรรถนะของเด็กปฐมวัยด้วยตารางเก้าช่อง” 👦

💪 เพื่อพัฒนากล้ามเนื้อมัดใหญ่ให้มีความแข็งแรง และมีทักษะการทรงตัวที่ดี

🧠 เพื่อพัฒนาทักษะการคิด การตัดสินใจ การแก้ปัญหาเฉพาะหน้า

💆‍♀️เพื่อพัฒนาและเสริมสร้างสมาธิในการรับรู้

🏃‍♀️เพื่อให้เด็กมีส่วนร่วมในการฝึกปฏิบัติ ได้คิดเอง ทำเอง มีเหตุมีผล

💃 เกิดความสนุกสนานเพลินเพลิน คลายเครียด