วันที่ 9 กุมภาพันธ์ 2515 บาทหลวงเศียร โชติพงษ์ ย้ายไปเป็นเจ้าอาวาสวัดคาทอลิกวัดหัวไผ่ อ.พานทอง จ.ชลบุรี บาทหลวงสุเทพ นามวงศ์ มารับหน้าที่แทนและ
ซิสเตอร์ปราณีต นามประดิษฐ์ มารับหน้าที่เป็นผู้จัดการและครูใหญ่แทนซิสเตอร์จำรัส
อานามนารถ วันที่ 17 พฤษภาคม 2515 ในปีการศึกษานี้จำนวนนักเรียนได้เพิ่มขึ้นเป็น 211 คนและครู 10 คน ทำให้โรงเรียนเริ่มไม่เพียงพอรองรับนักเรียน จึงต้องตระเตรียมขยับขยายอาคารกันอีก โดยสร้างต่ออาคารเซนต์โยเซฟออกไปอีกทางทิศตะวันออกให้ครบตามโครงสร้างที่มีอยู่เดิม บาทหลวงสุเทพ นามวงศ์ ได้เริ่มดำเนินการเมื่อวันที่ 23 เมษายน 2516 และแล้วเสร็จราวเดือนตุลาคมปีเดียวกัน ได้ห้องเรียนเพิ่มขึ้นอีก 9 ห้องเรียน ทำให้รับนักเรียนเพิ่มขึ้นได้อีก และยังได้ที่พักสำหรับซิสเตอร์ในชั้นที่ 5 ด้วย
ปีการศึกษา 2517 บาทหลวงสุเทพ นามวงศ์ ย้ายไปทำหน้าที่อื่นและบาทหลวงเทพศิริ ศิริโรจน์มารับผิดชอบแทน ซิสเตอร์บุญชอบ หัวใจ มารับหน้าที่ผู้จัดการและครูใหญ่ ต่อจากซิสเตอร์ปราณีต นามประดิษฐ์ ขณะนี้มีนักเรียน 360 คน
ครู 16 คน
วันที่ 10 กรกฎาคม 2518 บาทหลวงเศียร โชติพงษ์ย้ายมารับหน้าที่ผู้แทนผู้รับใบอนุญาตอีกครั้ง
วันที่ 19 สิงหาคม 2519 คุณพ่อสุเทพ นามวงศ์ ย้ายกลับมาทำหน้าที่เป็นครั้งที่ 2 แทนบาทหลวงเศียรโชติพงษ์ ในระยะนี้โรงเรียนก็ได้พัฒนาไปมาก ได้รับการยอมรับในด้านการศึกษา อบรมนักเรียนมากยิ่งขึ้น จนเมื่อครบรอบปีที่ 10 ของโรงเรียน
ในปี 2521 นั้นมีนักเรียนกว่า 700 คนจำนวนนักเรียนได้ทวีขึ้นกว่า 10 เท่าจากจุดเริ่มต้นทำให้เริ่มมีความแออัดห้องเรียนไม่เพียงพอและยังขาดห้องประกอบการเรียนอีกมาก บาทหลวงสุเทพ นามวงศ์จึงได้คิดถึงอาคารเรียนหลังที่สอง
ราวเดือนกุมภาพันธ์ 2522 บาทหลวงสุเทพ นามวงศ์ ได้ยื่นขออนุมัติแบบแปลนก่อสร้างอาคารเรียนหลังใหม่เป็นตึก 4 ชั้น อยู่ระหว่างอาคารเรียนเดิมและบ้านพักขนานกับแนวที่ดินทางทิศตะวันตก เริ่มตอกเสาเข็มในเดือนเมษายน 2522ขณะเดียวกันก็ต้องวิ่งเต้นรวบรวมเงินทุนค่าใช้จ่ายสำหรับการก่อสร้าง เพราะเวลานั้นโรงเรียนมีฐานะทางการเงินไม่ค่อยดีนักจึงขอรับบริจาคจากผู้ใจบุญและที่เหลือก็ต้องขอยืมจากทางมิสซังก่อน
เริ่มปีการศึกษา 2522 ได้มีการเปลี่ยนผู้จัดการและครูใหญ่จากซิสเตอร์
บุญชอบ หัวใจ เป็นซิสเตอร์ราตรี สมุทรคีรี ส่วนการก่อสร้างอาคารเรียนคงดำเนินการต่อไปในปี 2523 จนถึงเดือนพฤษภาคม 2524อาคารเรียนอันสง่างามหลังที่สองเป็นตึก 4 ชั้น จำนวน 21 ห้อง ก็เสร็จสมบูรณ์ และได้ตั้งชื่อว่า “อาคารเซนต์ปีเตอร์” เปิดใช้ในปีการศึกษา 2524 สามารถรับนักเรียนเพิ่มขึ้นอีกเป็น 1,095 คน ทั้งยังมีห้องสำหรับกิจกรรมต่าง ๆ และหอพักนักเรียนประจำเพิ่มขึ้นด้วย ต่อมาปีการศึกษา 2525 ได้รับอนุญาตให้ตั้งกองลูกเสือและเนตรนารีขึ้น